วันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

“ดนตรี” เสียงสวรรค์ สรรค์สร้างความสุข


นำเยาวชนห่างไกลอบายมุข รู้คุณค่าในตัวเอง

สำนัก งานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และเครือข่ายดนตรีสร้างสุขทั่วประเทศ ร่วมกันสานฝันเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มีใจรักในงานดนตรีกันอีกครั้งแล้ว โดยได้จัดค่ายดนตรีสร้างสุข และดนตรีสร้างสุขสัญจรขึ้น เพื่อให้ดนตรีได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างเสริมสุขภาวะให้เยาวชน งานนี้มีการแถลงข่าวกันอย่างคึกครื้น เรียกได้ว่า สมชื่อ “ดนตรีสร้างสุข” อย่างแท้จริงเลยทีเดียว
เป็นที่ทราบกันว่าทาง สสส. ได้ผสานเครือข่ายดนตรีต่างๆ สร้างสรรค์กิจกรรมดนตรีเพื่อเด็กและเยาวชนมาแล้วกว่า 20 โครงการ โดยได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีเสมอมา ในปีหน้าจึงมีการขยายผลกิจกรรมค่ายดนตรีสร้างสุขและดนตรีสร้างสุขสัญจร สู่งานมหกรรมดนตรีสร้างสุขระดับภูมิภาค ที่จะมีกำหนดการจัดในทุกๆ ภาค รวมทั้งกรุงเทพมหานครด้วย ซึ่งผศ.ดร.วิลาสินี อดุลยานนท์ ผอ.สำนักรณรงค์และสื่อสารสาธารณะเพื่อสังคม สสส. บอกว่า สสส. มองดนตรีเป็นช่องทางหนึ่งที่จะสื่อสารการสร้างเสริมสุขภาพสู่กลุ่มเยาวชน ซึ่งถ้านำสุนทรียะของดนตรีมาใส่เนื้อหาเชิงสาระก็จะมีคุณค่า และเป็นสื่อที่สำคัญมาก ทาง สสส. ได้สนับสนุนโครงการนี้อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นให้เด็กและเยาวชนได้สร้างสรรค์ผลงานออกมาเอง เพราะเชื่อว่าสื่อที่พวกเขาผลิตเองจะมีความหมายและมีประสิทธิผลในการเป็น สื่อเสริมสร้างสุขภาพมากกว่า
เช่นเดียวกับนายดนัย หวังบุญชัย ผู้จัดการแผนงานทุนอุปถัมภ์เชิงรุกด้านสื่อและกิจกรรมเพื่อการสร้างเสริม สุขภาพ สสส. ที่มองพลังของดนตรีว่า มีความสำคัญต่อเด็กและเยาวชนเป็นอย่างมากไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ในฐานะผู้ชม หรือผู้แสดงก็ตาม สสส.จึงได้ระดมความคิดจากหลายๆ ฝ่าย มาช่วยกันออกแบบให้มีดนตรีสร้างสุขขึ้นมา เพื่อให้แนวทางนี้มีการพัฒนาที่เข้มแข็งต่อไป
ความน่าทึ่งของดนตรีนอกจากจะสื่อออกมาในรูปของความไพเราะจับใจแล้ว ยังทำให้ผู้เสพมีความสุขได้อย่างน่าอัศจรรย์อีกด้วย อย่างในงานแถลงข่าวในครั้งนี้ก็ได้จัดให้มีการแสดงของเยาวชนจากค่ายดนตรี สร้างสุข ซึ่งผลงานทางดนตรีของแต่ละภูมิภาคก็ให้การรับรู้และสุนทรียะที่แตกต่างกัน ออกไป
  
ประเดิมกันด้วยการแสดงของโครงการดนตรียิ้มละไม กับการแสดงชุดปาร์ตี้ดนตรีเด็กเขาใหญ่ ซึ่งในการแสดงส่วนใหญ่ใช้เพียงเครื่องดนตรีทำมืออย่างง่าย แต่สามารถสร้างความไพเราะ และความรื่นรมย์ได้เป็นอย่างดี ถัดมาเป็นการแสดงดนตรีล้านนาร่วมสมัย งานนี้มีการนำผลงานเพลงใหม่ที่ประพันธ์โดยเยาวชนคีตะนาฏการล้านนา มาบรรเลงให้ฟังกันสดๆ เสียงพิณเปี๊ยะ เสียงซึงที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวตามแบบล้านนา สามารถสะกดผู้ฟังได้อยู่หมัดเลยทีเดียว...
ส่วนการแสดงดนตรีสร้างสุขจากเยาวชนภาคอีสาน ก็ทำเอาหลายๆ คนต้องทึ่งไปตามๆ กัน เพราะนายอำพล รักษ์มณี หรือน้องหลอด เยาวชนดนตรีวัย 17 ปี จากจังหวัดขอนแก่นผู้นี้ แม้สายตาทั้ง 2 ข้างจะมองไม่เห็น แต่ก็สามารถโชว์การแสดงเดี่ยวทั้งเล่นดนตรีและร้องเพลงได้อย่างน่าประทับใจ แถมเป็นผลงานประพันธ์สดๆ ใหม่ๆ ของตัวเองเสียด้วย การแสดงชุดนี้จึงเรียกเสียงปรบมือได้อย่างล้นหลาม
น้องหลอด บอกว่า “ดนตรี ช่วยระบายความรู้สึกได้ดี ไม่ว่าจะสนุกหรือเศร้าก็สามารถสื่อสารผ่านดนตรีได้ทั้งนั้น และยังเป็นที่มาของมิตรภาพที่สำคัญ จึงอยากให้เพื่อนๆ เยาวชนจะเก่งหรือไม่เก่งก็ตาม ขอแค่มีใจรักทางดนตรี ให้มาร่วมกันสร้างสรรค์งานดนตรีดีกว่ามัวเสียเวลากับสิ่งยั่วยุ” ได้ยินอย่างนี้แล้วอย่ารอช้า หันมาเล่นดนตรีกันเสียวันนี้เลยดีกว่า จะได้มีความสุขกันถ้วนหน้า
ปิดท้ายด้วยการแสดงของเยาวชนจากค่ายดนตรีเพาะรัก และค่ายกอดทะเลด้วยเสียงเพลง วงโฮปแฟมมิลี่ วงนี้มาโชว์เพลงเพราะความหมายดีๆ บวกกับความสดใสสมวัย เรียกได้ว่า ผู้ชมในงานแถลงข่าวได้รับความสุขจากดนตรีกันทั่วถึงเลยทีเดียว
น้องลูกศร นางสาววริฒรัตน์ ธวรรณวิวัฒนกุล หนึ่งในเยาวชนค่ายกอดทะเลด้วยเสียงเพลง บอกว่า “การทำงานดนตรีนอกจากได้รับประสบการณ์ดีๆ แล้ว ยังรู้สึกภูมิใจและรู้สึกว่าตัวเองมีค่า เพราะการเรียนดนตรีมาถ้าไม่ได้รับใช้สังคมบ้าง ดนตรีก็คงจะไม่เกิดประโยชน์ แต่นี่เราแต่งเอง จึงใช้ได้เต็มที่แล้วนำไปแลกเปลี่ยนกับคนในชุมชนได้ด้วย คิดว่าการทำแบบนี้มันเป็นความสุขที่ยังยืน”  
  
ด้านนายวินัย พันธุรักษ์ นายกสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยฯ มองว่า โจทย์ที่ต้องเร่งดำเนินการ คือจะทำอย่างไรให้เด็กและเยาวชนได้มีโอกาสสัมผัสและรับรู้เรื่องดนตรีอย่าง ทั่วถึง เพราะในสังคมปัจจุบันพบว่ายังมีเด็กบางส่วนที่ยังไม่ได้รับโอกาสในส่วนนี้ เพราะฐานะไม่เอื้ออำนวย ครอบครัวไม่มีกำลังในการส่งเสริมให้ศึกษาเรียนรู้ อาศัยอยู่ในชุมชนแออัด หรือไม่ได้รับการสนับสนุนจากสังคมอย่างทั่วถึง ดังนั้นค่ายดนตรีสร้างสุขที่หลายๆ ฝ่ายได้ร่วมมือกันจัดในครั้งนี้ จึงถือเป็นใบเบิกทางสู่โอกาสให้เด็กและเยาวชนได้เข้ามามีส่วนร่วมมากยิ่ง ขึ้น เพราะการตระหนักว่า “ดนตรีเป็นเสียงสวรรค์ หากเด็กและเยาวชนได้เสพในส่วนนี้ ย่อมดีกว่าเข้าหายาเสพติดอย่างแน่นอน”
และงานในครั้งนี้ยังได้รับเกียติรจากนายไพจิตร ศุภวารี ประธานสมัชชาศิลปิน คุณทอด์ด ทองดี ลาเวลล์ จากโครงการดนตรีสร้างสุขภาคเหนือ “หิมพานต์คู่โลก” และคุณสุกัญญา มิเกล นักร้องและวิทยากรจากกลุ่มเยาวชนโคตรอินดี้ มาร่วมแถลงข่าวด้วย โดยมหกรรมดนตรีสร้างสุขภูมิภาค มีกำหนดการจัดงานที่จังหวัดเชียงใหม่ ในวันเสาร์ ที่ 5 มกราคม 2551 ที่กรุงเทพมหานคร ในวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ 12-13 มกราคม ขอนแก่น จัดวันที่ 19 มกราคม และนครศรีธรรมราช ในวันเสาร์ ที่ 26 มกราคม โดยมีเยาวชนดนตรีในแต่ละภูมิภาค ศิลปินที่มีชื่อเสียง และศิลปินพื้นบ้านมากมายเข้าร่วมงาน
การจัดงานในส่วนภูมิภาคนี้ ถือเป็นการอุ่นเครื่อง ก่อนที่ดนตรีทั้ง 4 ภูมิภาคจะมาร่วมกันอีกครั้งในงาน “มหกรรมดนตรีสร้างสุข” ร่วมกับกรุงเทพมหานคร ในวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ 2-3 กุมภาพันธ์ 2551 ณ สวนลุมพินี ซึ่งทาง สสส. คาดหวังว่างานนี้จะเป็นอีกหนึ่งเทศกาลศิลปะเพื่อสุขภาวะที่ยั่งยืน ที่จะมีการจัดต่อเนื่องเป็นประจำทุกๆ ปีต่อไป

 
 
ที่มา
ข้อมูลจาก : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
ภาพประกอบ : www.thaihealth.or.th
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น